จีนกลายเป็นมหาอำนาจด้านโดรน และอาจนำโดรนมาใช้จัดการความขัดแย้งด้านพรมแดนทางทะเล

ผู้ผลิตจีนเพิ่งเปิดตัวโดรนต้นแบบที่มีผู้โดยสารเดินทางไปด้วยได้ ซึ่งบังคับได้ด้วยโทรศัพท์สมาร์ทโฟน

ที่สำคัญโดรนของจีนยังมีส่วนในการทหารด้วย เพราะจีนส่งเครื่องของตนไปปฏิบัติการในอิรัก ซีเรีย เกาหลีเหนือและปากีสถาน

เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว โดรนของจีนเข้าปราบปรามกลุ่มรัฐอิสลามไอเอสในอิรักโดยสร้างความเสียหายครั้งใหญ่ให้กับกลุ่มก่อการร้ายนี้

ผู้เชี่ยวชาญ Michael Boyle จากสถาบัน Foreign Policy Research Institute กล่าวว่าโดรนจากจีนสามารถทำหน้าที่ได้ทั้งการสอดแนมและการโจมตีด้วยจรวด

หากพิจารณาถึงความขัดแย้งของจีนเรื่องดินแดนในทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้ การใช้โดรนน่าจะมีบทบาทสำคัญในการแข่งขันเชิงอำนาจเหนือดินแดนที่เป็นปัญหาเหล่านี้

Michael Boyle กล่าวว่าที่ผ่านมาสหรัฐฯ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดในการใช้โดนเพื่อการโจมตีกลุ่มติดอาวุธ ในดินแดนที่ไม่มีการถูกปกครองอย่างชัดเจน และน่าสนใจว่าต่อไปข้างหน้าจะมีประเทศใดบ้างที่ใช้โดรนในลักษณะเดียวกับสหรัฐฯ

สำหรับจีน คำถามหนึ่งเกี่ยวกับเทคโนโลยีโดรนคือเรื่องคุณภาพ ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าในอุตสาหกรรมนี้โดรนจากอิสราเอลและรัสเซียถือว่าล้ำหน้ากว่าของจีน

ขณะเดียวกันสหรัฐฯ ซึ่งมีเทคโนโลยีโดรนล้ำสมัย เป็นห่วงว่าเครื่องมือนี้จะตกอยู่ในมือของคู่แข่ง ซึ่ง Michael Boyle กล่าวว่า มีเห็นตัวอย่างที่สหรัฐฯ ไม่ต้องการให้อิสราเอลขายโดรนให้จีน หรือร่วมมือพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องบินไร้คนขับกับจีน

ภายในประเทศจีนเอง อากาศยานไร้คนขับถูกใช้วัตถุประสงค์ต่างๆ มากมาย ตั้งแต่ถ่ายรูปงานแต่งงาน ส่งของ ไปจนถึงการสอดส่องความปลอดภัยของเขตอุตสาหกรรม

ปัจจุบันการผลิตโดรนในจีนมีผู้ประกอบการ 400 กว่าราย เพิ่มขึ้นถึง 9 เท่าในเวลาเพียงหนึ่งปี

การใช้อย่างแพร่หลายภายในประเทศ ทำให้ทางการจีนต้องประกาศกฎจราจรของโดรนเป็นครั้งแรกไม่นานนี้ เพื่อความปลอดภัยโดยเฉพาะต่อเครื่องบินทหารและสายการบินพาณิชย์ที่อาจชนกับโดรนได้

(รายงานโดย Saibal Dasgupta / เรียบเรียงโดย รัตพล อ่อนสนิท)