นักวิเคราะห์ระบุสาเหตุที่การเจรจาข้อตกลงการค้า TPP ครั้งล่าสุดล้มเหลว

จนถึงขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปใดๆออกมาเกี่ยวกับอนาคตของการเจรจาข้อตกลงการค้า Trans-Pacific Partnership (TPP) หลังจากประเทศสมาชิก 12 ประเทศไม่สามารถหาข้อตกลงได้ในการประชุมที่ฮาวายเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว

คุณ Deborah Elms ผอ.ฝ่ายบริหารของ Asia Trade Center ให้ความเห็นกับ VOA ว่าเมื่อพิจารณาจากเงื่อนเวลา จะเห็นได้ว่าการเลือกตั้งในประเทศสมาชิก TPP บางประเทศกำลังใกล้เข้ามา ซึ่งเรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจที่มีต่อข้อตกลงการค้าสำคัญฉบับนี้

คุณ Deborah Elms ระบุว่าการเลือกตั้งใหญ่ใน 3 ประเทศ ได้แก่ การเลือกตั้งทั่วไปในแคนาดาเดือน ต.ค การเลือกทั่วไปของญี่ปุ่นในเดือน ก.ย และการเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ ในปลายปีหน้า ทำให้สมาชิกรัฐสภาฯของสามประเทศยังคงรีรอในการตัดสินใจเรื่องข้อตกลง TPP

ในกรณีของแคนาดา คุณ Elms บอกว่าแคนาดามีอุตสาหกรรมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นมขนาดใหญ่และสลับซับซ้อน ซึ่งเป็นแหล่งรายได้สำคัญของประเทศ ดังนั้นแคนาดาจึงไม่ต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงอะไรที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมดังกล่าว

ส่วนในกรณีของสหรัฐฯ เนื่องจากข้อผูกพันที่รัฐสภาสหรัฐฯกำหนดไว้ว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อย 90 วันในการพิจารณาข้อตกลง TPP ดังนั้นหากประเทศต่างๆสามารถตกลงกันได้ภายในสิ้นเดือนนี้ นั่นหมายความว่ากว่ารัฐสภาจะพิจารณาอนุมัติก็ถึงช่วงปลายปีซึ่งเป็นช่วงวันหยุดยาวในสหรัฐฯ และเมื่อถึงช่วงต้นปีหน้าก็จะเป็นปีแห่งการเลือกตั้งปธน. ซึ่งไม่มีใครต้องการจะพูดถึงข้อตกลงการค้าในปีหน้าแน่นอน

นสพ.Yomiuri Shimbun ของญี่ปุ่นรายงานว่า การเจรจาครั้งล่าสุดเกี่ยวกับข้อตกลงการค้า Trans-Pacific Partnership ที่ฮาวายเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ประสบอุปสรรคเนื่องจากแต่ละประเทศไม่ต้องการเปิดเผยข้อมูลสำคัญของตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมยาและสิทธิบัตรยา ซึ่ง นสพ.ใหญ่ของญี่ปุ่นฉบับนี้โยนความผิดส่วนหนึ่งให้สหรัฐฯ ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทผู้ผลิตยารายใหญ่ที่สุดในโลกหลายบริษัท

อีกประเด็นที่ประเทศต่างๆยังไม่สามารถตกลงกันได้คืออุตสาหกรรมรถยนต์ โดยเม็กซิโกซึ่งกำลังก้าวขึ้นมาเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์รายใหญ่ ยังคงมีความขัดแย้งกับญี่ปุ่นในหลายประเด็น

คุณ Deborah Elms แห่ง Asia Trade Center เชื่อว่าปัญหาและอุปสรรคต่างๆที่กล่าวมา จะส่งผลให้การจัดทำข้อตกลงการค้า TPP ต้องล่าช้าออกไปอย่างน้อยก็ถึงปี ค.ศ 2017 ซึ่งประเทศสมาชิกสำคัญต่างๆจะมีผู้นำชุดใหม่แทนชุดปัจจุบัน และผู้แทนการเจรจาก็จะเปลี่ยนหน้าไป และตนเชื่อว่าถึงเวลานั้นการเจรจาน่าจะทำได้ง่ายขึ้น

ปัจจุบันสมาชิกของ TPP 12 ประเทศที่เจรจากันอยู่นั้น ประกอบด้วย อเมริกา ญี่ปุ่น แคนาดา ออสเตรเลีย บรูไน ชิลี มาเลเซีย เม็กซิโก นิวซีแลนด์ เปรู สิงคโปร์ และเวียดนาม

ส่่วนประเทศอื่นๆ ได้แก่ โคลัมเบีย ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ ไต้หวัน และไทย ประกาศความสนใจไว้เมื่อหลายปีก่อน และอาจเข้าร่วมในระลอกที่สองหากประเทศสมาชิกชุดแรกสามารถทำข้อตกลงกันได้สำเร็จ

(ผู้สื่อข่าว Steve Herman รายงาน / ทรงพจน์ สุภาผล เรียบเรียง)